หลักการ:บาคาร่า เพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่าทุกครั้งที่แพ้ และกลับไปเดิมพันขั้นต่ำเมื่อชนะ
ตัวอย่าง:เริ่มเดิมพัน 100 บาท หากแพ้ → เดิมพันครั้งถัดไป 200 → แพ้อีก เดิมพัน 400 → ชนะ ได้กำไร 100 บาท และกลับไปเริ่มต้นใหม่
ข้อดี:
เหมาะกับผู้เล่นที่มีทุนเยอะ
เน้นคืนทุน+กำไรเล็กน้อยทุกรอบ
ข้อเสีย:
เสี่ยงหมดตัวเร็วหากแพ้ต่อเนื่อง
โต๊ะมีลิมิตการเดิมพัน อาจทำให้แผนล่ม
หลักการ:เพิ่มเดิมพันเมื่อชนะ และรีเซ็ตเมื่อแพ้ (ตรงข้ามกับมาร์ติงเกล)
ตัวอย่าง:เริ่ม 100 บาท ชนะ → เดิมพัน 200 → ชนะอีก เดิมพัน 400 → แพ้ กลับมาเริ่มที่ 100
เพิ่มกำไรเมื่อชนะต่อเนื่อง
ลดความเสี่ยงเมื่อแพ้
ต้องชนะติดกันจึงจะได้กำไรสูง
ไม่เหมาะกับเกมที่ผลสลับบ่อย
หลักการ:เดิมพันตามลำดับตัวเลขฟีโบนัชชี เช่น 1-1-2-3-5-8-13… โดยเพิ่มตามลำดับเมื่อแพ้ และถอยหลัง 2 ขั้นเมื่อชนะ
เดินเงินสมดุลกว่ามาร์ติงเกล
มีจุดออกที่ชัดเจนเมื่อได้กำไร
ลำดับยาวเมื่อแพ้ต่อเนื่อง อาจต้องใช้ทุนมาก
ซับซ้อนกว่าวิธีอื่นเล็กน้อย
หลักการ:เดินเงิน 1 หน่วย → 3 หน่วย → 2 หน่วย → 6 หน่วย หากชนะติดต่อกัน และกลับไปเริ่มใหม่เมื่อครบลูป หรือแพ้
ได้กำไรสูงหากชนะ 4 ตาติด
เสี่ยงต่ำเมื่อเล่นในลูปสั้น
ต้องชนะติดหลายตา
ต้องควบคุมอารมณ์เมื่อเสียในตาสุดท้าย
ระบบเดิมพันไม่ใช่สูตรโกง แต่เป็น “เครื่องมือบริหารความเสี่ยง” เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะในระยะยาว หากคุณเข้าใจและใช้มันร่วมกับการวิเคราะห์เค้าไพ่ เช่น เค้าไพ่มังกร ปิงปอง หรือสองตัวตัด ก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อีกขั้น
คำแนะนำ:
ตั้งงบประมาณก่อนเล่น
เลือกระบบให้เหมาะกับสไตล์และทุนของตัวเอง
หยุดเมื่อได้กำไรตามเป้า หรือเมื่อเสียถึงลิมิต
บาคาร่าไม่ใช่เกมที่ต้องอาศัยโชคเพียงอย่างเดียว หากคุณมีแผนและวินัย ก็มีสิทธิ์ทำกำไรได้ไม่ยาก
สวัสดีมาร์เก็ต